สารบัญ (Contents)
โรคคาวาซากิ (Kawasaki Disease, Mucocutaneous Lymph Node Syndrome)
เป็นโรคที่ทำให้มีการเกิดการอักเสบ (Inflammation) ของหลอดเลือดทั่ว ร่างกาย ในปัจจุบันยังไม่เป็นที่ทราบกันอย่างแน่ชัดว่าโรคนี้เกิดจากสาเหตุอะไร แต่นักวิจัยบางท่านสันนิษฐาน ว่าอาจจะเกิดจากการติดเชื้อบางอย่าง แต่นักวิจัยบางท่านคิดว่า อาจจะเกิดจากโรคทางออโตอิมมูนที่ถูกกระตุ้นโดยการติดเชื้อ หรือถูกกระตุ้นโดยสารพิษในสภาพแวดล้อม
- 80% ของคนที่เป็นโรคนี้จะมีอายุต่ำกว่า 4 ปี แต่มีบ้างที่อาจจะพบในเด็กทารกหรือเด็กวัยรุ่น
- เด็กเอเชีย มีความเสี่ยงในการที่จะเป็นโรคนี้มากกว่าเด็กเชื้อสายอื่นๆ
กลไกการอักเสบ (Inflammation) ของโรคก่อให้เกิดภาวะหลอดเลือดที่เลี้ยงหัวใจโป่งพอง (Coronary Artery Aneurysm) และภาวะหลอดเลือดที่เลี้ยงหัวใจขาดเลือด (Heart Attack) เหตุนี้ทำให้โรคคาวาซากิ เป็นโรคที่เป็นสาเหตุของโรคหัวใจในเด็กเป็นอันดับหนึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้ว - 50% ของผู้ที่เป็นโรคนี้แล้วไม่ได้รับการรักษาจะดำเนินโรคต่อไปจนเป็นโรคหัวใจ
- 5-10% ของผู้ที่เป็นโรคนี้แล้วได้รับการรักษาภายในก่อนวันที่ 10 ของโรคเท่านั้น ที่จะมีการดำเนินโรคต่อไปจนเป็นโรคหัวใจ
อาการ
90% ของผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการดังต่อไปนี้
- มีไข้สูงอย่างน้อย 5 วัน
- มีตาแดงเคือง อักเสบ (Conjunctivitis) โดยไม่มีหนอง
- ปากแห้ง ปากแดง ปากแห้งแตกเป็นแผล
- มีลิ้นแดง (Strawberry Tongue)
- ฝ่ามือฝ่าเท้า แดง และหนังที่นิ้วมือและนิ้วเท้าลอกหลังจากเริ่มเป็นโรค 2 สัปดาห์
- มีผื่นแดงที่ตามตัว
- อาจจะมีต่อมน้ำเหลืองที่คอโต (50-75%)
- อาจจะมีปวดบวมตามข้อได้
- เบื่ออาหารมากได้
- ร้องงอแง กวนโยเย
การวินิจฉัย
อาศัยอาการทางคลินิกดังที่กล่าวมาแล้ว แต่ในเด็กเล็กอาจจะมีอาการไม่ชัดเจนมากเท่าเด็กโต การตรวจเลือดอาจจะตรวจ
- พบการสูงขึ้นของ ESR (Erythrocyte Sedimentation Rate)
- การสูงขึ้นของ C-Reactive Protein
- การสูงขึ้นของ Alpha 1 Antitrypsin
- นอกจากนี้ยังมีการตรวจ Echocardiogram หรือ อัลตร้าซาวน์ของหัวใจ เพื่อหาภาวะ Aneurysm และโรคหัวใจ
การรักษา
เป้าหมายสำคัญของการรักษาโรคคาวาซากิคือการป้องกันการเกิดโรคหัวใจในระยะต่อมาของผู้ป่วย และการรักษาเพื่อลดอาการของโรค
- การฉีด Intravenous Gamma Globulin และการให้ Aspirin จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ
- การทำ ตรวจ Echocardiogram หรือ อัลตร้าซาวน์ของหัวใจ อาจจะทำเป็นครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรก 3-4 สัปดาห์เพื่อหาการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดหัวใจและหัวใจ ที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาได้
- โรคนี้มีระยะของโรคค่อนข้างยาวนาน และผู้ป่วยอาจจะจำเป็นที่จะต้องกินยาแอสไพริน ต่อเนื่องนานถึงมากกว่า 3 เดือน ถ้าการรักษาได้รับการเริ่มต้นได้เร็วมากเท่าไร โอกาสที่เด็กจะเป็นโรคหัวใจตามมาก็น้อยลงไปมากเท่านั้น